มาต่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 ที่เมืองชไปเออร์ เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ตอนบน หนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดใประเทศเยอรมันเลยนะจ๊ะ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จุดเด่นของเมืองนี้ คือ มหาวิหารชไปเออร์ (Speyer Cathedral) ซึ่งตั้งเด่นอยู่ใจกลางเมือง สถาปัตยกรรมเป็นแบบโรมาเนสก์ ภายในเป็นที่ฝังพระบรมศพของพระมหากษัตริย์แห่งเยอรมันและพระจักรพรรดิโรมันอันศักด์สิทธิ์รวมทั้งสิ้น
8 พระองค์ด้วยกัน โบสถ์แห่งนี้มีความงดงามมากจนได้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO ในปี 1981 นั่นเองจ้า
.JPG) |
| มหาวิหารชไปเออร์ |
.JPG) |
| ด้านหน้าทางเข้ามหาวิหารชไปเออร์ |
.JPG) |
| ด้านหน้าทางเข้ามหาวิหารชไปเออร์ |
ด้านล่างของมหาวิหารชไปเออร์เป็นห้องใต้ดินซึ่งเป็นที่เก็บพระบรมศพของพระมหากษัตริย์เยอรมันและพระจักรพรรดิโรมัน อันนี้จะต้องเสียค่าเข้าชม 1 ยูโรค่ะ
.JPG) |
| ห้องใต้ดินของมหาวิหารชไปเออร์ |
.JPG) |
| ห้องใต้ดินของมหาวิหารชไปเออร์ |
.JPG) |
| มหาวิหารเซนต์แมรี่และเซนต์สตีเฟ่น สถานที่ทำพิธีศีลจุ่มภายในห้องใต้ดิน |
.jpg) |
ที่เก็บพระบรมศพของพระมหากษัตริย์เยอรมัน
|
.JPG) |
| มหาวิหารชไปเออร์ |
ในสมัยก่อนรอบๆ มหาวิหารจะรายล้อมด้วยอาคารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรม The Mount of Olives ทางทิศใต้ ที่พักของท่านบิชอบทางด้านเหนือ และอาคารอื่นๆ เช่น โบสถ์เชนต์นิโคลัส ป้อมปราการ เป็นต้น แต่สิ่งเหล่านี้ถูกทำลายลงในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส
ประติมากรรม The Mount of Olives ถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ซากปรักหักพังเมื่อปี 1689 แต่ได้ถูกบูรณาการอีกครั้งโดยนักประติมากร Gottfried Renn ปัจจุบันกลายเป็นแบบนี้
.JPG) |
| Stadthaus (Town House) |
.JPG) |
| ด้านหน้าของ Stadthaus |
เดินมาเรื่อยๆ เจอคนมุ่งดูรูปปั้นรูปนึง เราก็สงสัยรูปปั้นอะไรน่ะ (ขอดูบ้างสิ) เป็นรูปปั้น Jacob Spilger เป็นนักแสวงบุญในยุคกลางซึ่งเดินทางหลายร้อยไมล์เพื่อไปเมือง Santiago de Compostela ประเทศสเปน ซึ่งในระหว่างทางไปนั้นก็ได้ผ่านเมืองชไปเออร์ด้วย รูปปั้นนี้จึงเป็นที่ระลึกว่านักแสวงบุญท่านนี้ได้เดินทางผ่านเมืองนี้ในสมัยนั้นนั่นเองค่ะ
.JPG) |
รูปปั้นนักแสวงบุญ Jacob Spilger
|
.JPG) |
| ตัวเมืองเก่า |
ทางด้านซ้ายมือ เราจะเห็นอาคารสวยสะดุดตาหลังหนึ่ง อาคารหลังนี้ คือ ศาลากลาง (City Hall) ของเมืองชไปเออร์ หลังจากอาคารถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1689 ก็ได้สร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1712 - 1726 รวมแล้วใช้เวลาสร้างถึง 15 ปี ปัจจุบันกลายเป็นที่แสดงคอนเสิร์ตเชมเบอร์มิวสิกและเป็นที่จัดงานแต่งงาน
.JPG) |
| ศาลากลาง (The City Hall) |
ถึงแล้วประตูเมืองเก่า (The Old City Gate) ประตูนี้ก่อสร้างเมื่อปี 1230 และมีการสร้างเพิ่มเติมในอีกปี 300 ต่อมา เป็นหนึ่งในประตูเมืองที่สูงที่สุดและสำคัญที่สุดในประเทศเยอรมัน นอกจากนี้ยังเคยเป็นประตูเมืองฝั่งตะวันตกของเมืองชไปเออร์และเป็นส่วนหนึ่งของป้อมปราการในยุคกลางค่ะ ประตูนี้จะหันหน้าเข้าหามหาวิหารชไปเออร์ ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดของถนน Maximilian ค่ะ
.JPG) |
| ประตูเมืองเก่า (Old City Gate) |
อีกฝั่งนึงของประตูเมือง เราจะเห็นกรอบเหล็กติดอยู่กับประตูเมือง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ใช้วัดความยาวของเมืองชไปเออร์ หรือที่เขาเรียกว่า "Speyer's Normal Foot" โดยขนาดจะอยู่ที่ 28 เซนติเมตร ซึ่งเขาใช้วัดทุกสิ่งทุกอย่างกับพ่อค้าในเมืองชไปเออร์ (อ่ะ จริงดิ)
.JPG) |
| Speyer's Normal Foot |
ทริปวันที่ 3 จบแล้ว ส่วนทริปวันพรุ่งนี้จะมีอะไรมาลุ้นกัน ^^
No comments:
Post a Comment